รีวิวหนัง “Parallel Lives” — เมื่อคำว่า ‘ถ้าเลือกอีกแบบ…ชีวิตจะเป็นอย่างไร
ทางเลือกนั้นแบ่งชีวิตของเธอออกเป็น “สองเส้นทาง” ที่ดำเนินไปพร้อมกันหนังจะพาเราเห็น เอลลาในโลกที่เลือกตามหัวใจ และ เอลลาในโลกที่เลือกตามเหตุผล แบบตัดสลับไปมาอย่างแยบยล ทำให้เราได้เห็นความสุข ความเสียใจ และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในสองไทม์ไลน์ โดยที่ทุกเหตุการณ์ค่อย ๆ เชื่อมโยงกันอย่างคาดไม่ถึง
จุดเด่น: หนังที่พาเราตั้งคำถามกับชีวิตตัวเองอย่างละเอียดอ่อน
การเล่าเรื่องแบบเส้นขนานที่ทำออกมา “กลมที่สุด”
หนังประเภทเส้นเวลาขนานมีให้เห็นมาหลายเรื่อง แต่สิ่งที่ทำให้ Parallel Lives แตกต่าง คือการค่อย ๆ เปิดเผยมุมมองของตัวละครทั้งสองเวอร์ชันอย่างลุ่มลึก ไม่มีเส้นทางไหนที่ดีสมบูรณ์แบบ และไม่มีเส้นทางไหนที่แย่จนเกินไป หนังทำให้เห็นว่า “ทางเลือก” ไม่ใช่คำตอบ แต่คือ “จุดเริ่มต้น” ของความหมายใหม่ในชีวิต
คนดูจะรู้สึกได้ถึงความเป็นมนุษย์จริง ๆ ของตัวละคร ทั้งความสับสน บทสนทนาที่คม และเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้เราย้อนกลับมาคิดถึงตัวเองด้วย
นักแสดงนำเล่นดีจนคนดูเชื่อว่ามีสองชีวิตจริง ๆ
นักแสดงที่รับบทเอลลาถ่ายทอดอารมณ์ได้ละเอียดมาก ไม่ว่าจะเป็น:
- เอลลาเวอร์ชันที่วิ่งตามความฝัน มีแววตาของคนที่ “ไม่ยอมแพ้”
- เอลลาเวอร์ชันที่เลือกงานมั่นคง มีความกดดันอยู่ลึก ๆ จนเรารู้สึกได้ว่ากำลังหลงทาง
ทั้งสองเวอร์ชันคือคนเดียวกัน แต่ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความแตกต่างทางบุคลิกชัดเจน ทำให้ภาพของ “ชีวิตคู่ขนาน” สมจริงยิ่งขึ้น
งานภาพและเพลงประกอบ ที่ช่วยขับอารมณ์ได้แบบละมุนหัวใจ
ทีมงานใช้โทนสีและแสงในการแบ่งเส้นเวลาได้อย่างชาญฉลาด
- ชีวิตสายงานศิลปะ ใช้โทนอบอุ่น สดใส
- ชีวิตสายงานบริษัท ใช้โทนเย็น เงียบ นิ่ง
แต่จุดที่ทำให้หนังตรึงคนดูมากที่สุด คือเพลงประกอบที่เรียบง่ายแต่กินใจ มีหลายฉากที่เพลงทำให้คนดูรู้สึกเหมือนกำลังตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตไปพร้อมกับตัวละคร
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร?
สำหรับคนที่กำลังสับสนในชีวิต หนังเรื่องนี้คือ “คำปลอบใจที่ดีที่สุด”
ใครที่กำลังอยู่บนทางแยกในชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องรัก หรือความฝัน หนังเรื่องนี้จะพาไอซ์ตั้งคำถามว่า…
สิ่งที่เราอยากได้จริง ๆ คืออะไร?
และเรากำลังกลัวอะไรอยู่?
หนังไม่ได้บอกว่าเส้นทางไหนดีที่สุด แต่สื่อว่า “ไม่ว่าทางไหนก็มีความงามอยู่เสมอ” และชีวิตจะดีได้เมื่อเราเลือกเดินไปข้างหน้าไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร
สรุป
“Parallel Lives” คือหนังที่ทั้งสวย ทั้งเศร้า และทั้งจริง มันทำให้เราย้อนคิดกับตัวเองโดยไม่ต้องมีใครสั่งสอน ความลึกซึ้งของตัวละครและการเล่าเรื่องที่เฉียบคม ทำให้หนังเรื่องนี้ติดอยู่ในหัวได้ยาวนานหลังดูจบ
ดูหนัง24